การเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติก



การเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติก นับเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ คุณนิมิตร์ เทียมมงคล ศูนย์งอกงาม เลขที่ 57 ถนนนเรศวร ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี 15000 โทรศัพท์ (081) 251-8285, (036) 613-031 ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้พัฒนาวิธีการเพาะถั่วงอกไร้สารพิษมาอย่างยาวนาน

หลักการพื้นฐาน

เพาะถั่วงอกตัดรากไร้สารพิษ

หนึ่ง เมล็ดพันธุ์ถั่วดี คือ มีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง สายพันธุ์ถั่วเขียวที่คุณนิมิตร์แนะนำคือ สายพันธุ์ “กำแพงแสน 2” เนื่องจากเป็นถั่วเขียวผิวมัน เมล็ดใหญ่ มีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง ทำให้ถั่วงอกที่เพาะออกมา ต้นโต ยาว อวบอ้วน น่ารับประทาน

คุณนิมิตร์ แนะนำว่า เมล็ดถั่วเขียวที่เหมาะแก่การนำมาเพาะถั่วงอก ควรมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวเมล็ดมาแล้ว 6-8 เดือน ซึ่งจะมีความงอกสูง หรือหากเลือกเมล็ดถั่วเขียวที่บรรจุถุงก็อาจจะสังเกตโดยการเคาะหรือตบถุงถั่วงอกว่าควรจะมีฝุ่นสีขาวๆ แสดงว่าเมล็ดถั่วใช้ได้ หรือหากนำเมล็ดถั่วเขียวมาเคี้ยวสด มีความกรุบกรอบเสียงดังก็ถือว่าใช้ได้

สอง ภาชนะที่เพาะต้องทึบแสง มีการระบายน้ำดี เช่น การเพาะถั่วงอกในตะกร้า ก็นำถุงดำมาคลุม แล้วไว้ในห้องที่มืด หรือเพาะในวงบ่อซีเมนต์ที่ปิดปากบ่อให้มืด

สาม มีการให้น้ำอย่างเหมาะสมและเพียงพอที่จะทำให้ถั่วงอกที่เพาะไม่เกิดความร้อนที่สะสมมากเกินไป วิธีสังเกตง่ายๆ ว่ามีความร้อนสะสมหรือไม่ โดยให้ผู้เพาะใช้มือสัมผัสผิวหน้าเมล็ดถั่วเขียวชั้นบนสุด ว่ารู้สึกร้อนหรือไม่ และการให้น้ำแต่ละครั้งจะต้องไม่มีไอจากความร้อนขึ้นมา เพราะถ้าตะกร้าหรือวงบ่อที่เพาะถั่วงอกมีความร้อนสะสมมากไป ก็จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วงอก จะทำให้ลำต้นเล็ก ไม่อวบอ้วน จะทำให้ถั่วงอกมีรากฝอยมาก ทำให้ไม่น่ารับประทาน

เมื่อเข้าใจหลัก 3 ประการ เบื้องต้นแล้ว “เกษตรกรและผู้สนใจควรเริ่มต้นการเพาะถั่วงอกตัดรากแบบใช้ตะกร้าพลาสติกเป็นภาชนะ เพื่อให้เกิดความชำนาญก่อนเป็นอันดับแรก” เกษตรกรจะเกิดกระบวนการเรียนรู้ ตั้งแต่เริ่มเตรียมอุปกรณ์จนตัดรากถั่วงอกเพื่อจำหน่าย

เมื่อมีความมั่นใจและเข้าใจ จนถั่วงอกเกิดคุณภาพมีคนรู้จัก หรือลูกค้าพูดกันปากต่อปากว่า ถั่วงอกตัดรากของเราอร่อย ตลาดก็จะตามมาเอง เพราะทุกวันนี้คนบริโภคถั่วงอกมีมากอยู่แล้ว แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รับประทานถั่วงอกที่มีสารเคมี

เมื่อเกิดความชำนาญในการเพาะถั่วงอกตัดราก มีตลาดเข้ามาก็สามารถขยายกำลังผลิตได้โดยไม่ยากเย็นนักจากเดิมที่อุปกรณ์คือ ภาชนะเป็นตะกร้าพลาสติก ที่สามารถเพาะถั่วงอกออกมาได้ราว 6-7 กิโลกรัม ต่อตะกร้า มาเปลี่ยนเป็นภาชนะที่ใหญ่ขึ้น เช่น วงบ่อซีเมนต์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของปากวงบ่อ 50 เซนติเมตร และสูง 50 เซนติเมตร  สามารถเพาะถั่วงอกออกมาได้ครั้งละประมาณ 10–12 กิโลกรัม ต่อวงบ่อ

การเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติก ก็ใช้หลักการเดียวกัน แต่ประยุกต์วัสดุเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด



อุปกรณ์ในการเพาะ

หนึ่ง : ขวดน้ำพลาสติก ที่เป็นขวดเหลี่ยม และมีรอยควั่นเป็นแนวตรง

สอง : คัตเตอร์

สาม : ธูป หรือหัวแร้งไฟฟ้า หรือเหล็กแหลมเผาไฟ เพื่อใช้เจาะรูที่ขวดพลาสติก จำนวนทั้งหมด 13 รู

สี่ : ไฟแช็ก หรือไม้ขีด ในกรณีที่ใช้ธูปหรือเหล็กแหลม ในการเจาะรู

ห้า : น้ำสะอาด ที่ใช้ล้างเมล็ดถั่วเขียว

หก : ยางวง ใช้ในการรัดตะแกรงเกล็ดปลา

เจ็ด : ตะแกรงพลาสติกเกล็ดปลา ขนาดรู 1 มิลลิเมตร เพื่อพลางแสง และลดแรงกระแทกเวลารดน้ำ ตัดให้ตะแกรงเกล็ดปลาสามารถม้วนหุ้มรอบขวดได้

แปด : ผ้า หรือผ้ากระสอบ เพื่อปิดขวดถั่วงอก เพื่อลดปริมาณแสง

เก้า : เมล็ดถั่วเขียว หรือถั่วชนิดอื่นตามความชอบ โดยคุณนิมิตร์แนะนำว่า ถั่วเขียวสายพันธุ์ที่ดีที่สุดในการนำมาเพาะถั่วงอกแล้วงอกดี ต้นสวย อวบอ้วน คือ ถั่วเขียวสายพันธุ์กำแพงแสน 2



มาดูขั้นตอนการเพาะ

1. นำขวดน้ำพลาสติกมาเจาะรูระบายน้ำ 2 แถว แถวละ 5 รู รวมทั้งหมด 10 รู เริ่มเจาะรูในร่องของขวด ตั้งแต่ข้อที่ 4-8 เจาะระบายอากาศบริเวณคอขวดอีก 3 รู และใช้คัตเตอร์เปิดเป็นที่ใส่เมล็ดถั่วและรดน้ำในบริเวณขวดด้านฝั่งตรงข้ามกับที่เจาะรู (10 รู) การเจาะรูขวด

ถ้ามีหัวแร้งจะเจาะรูได้สะดวกและรวดเร็วกว่าการใช้ธูปเจาะ แต่ถ้าไม่มีสามารถใช้ธูปแทนได้ โดยเวลาที่ใช้ธูปเจาะ ควรเป่าธูปให้ไฟติดเป็นสีแดง จะทำให้เจาะได้ง่ายขึ้น

2. นำเมล็ดถั่วเขียวแห้งใส่ลงในขวด แล้วตั้งขวดขึ้น ปริมาณของเมล็ดถั่วที่ใส่ ให้ใส่เท่ากับความสูงของรอยควั่นรอยแรก (หรือข้อแรกของก้นขวด) แล้วใส่น้ำสะอาดลงในขวด ใช้นิ้วมือกดปิดฝาที่เราทำไว้สำหรับรดน้ำ

จากนั้นนอนขวดลง แล้วเขย่าขวดไปข้างหน้าและถอยหลังเพื่อเป็นการล้างเมล็ดถั่วเขียวให้สะอาด ล้างทำความสะอาดสัก 2-3 ครั้ง

แล้วเตรียมน้ำอุ่น (โดยใช้ น้ำเดือด 1 ส่วน ผสมกับน้ำธรรมดา 3 ส่วน ก็จะได้น้ำอุ่นพอดี) เติมน้ำอุ่นลงไปให้สูงถึงข้อที่ 3 ของขวด แล้วแช่เมล็ดถั่วเขียวทิ้งไว้ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้เมล็ดถั่วพองตัว กระตุ้นให้เมล็ดถั่วงอกดีและที่สำคัญเป็นการช่วยฆ่าเชื้อโรคบางชนิดด้วย

3. เมื่อแช่น้ำจนได้เวลา ให้เปลี่ยนใส่น้ำธรรมดาเพื่อทำความสะอาดเมล็ดอีก 1-2 ครั้ง โดยเขย่าล้างอย่างเบามือ แล้วนอนขวดให้เมล็ดถั่วเขียวกระจายให้ทั่วขวด วางขวดในแนวนอน น้ำจะค่อยๆ ไหลซึมผ่านรูที่เจาะไว้

จากนั้น นำตะแกรงเกล็ดปลา มาม้วนหุ้มปิดทับขวด เพื่อช่วยพรางแสง ช่วยลดการปะทะของน้ำที่รดลงไป และห่อทับอีกชั้นด้วยผ้าขนหนู หรือกระสอบ เพื่อไม่ให้แสงเข้า วันถัดมาให้รดน้ำด้วยฝักบัวหรือใช้ขันตักราด ให้น้ำค่อยๆ ซึมผ่านรูที่เจาะไว้ ให้รดน้ำ วันละ 3 เวลา คือ เช้า-กลางวัน-เย็น

4. ผ่านไป 2 วัน 3 คืน จะได้ถั่วงอกขึ้นแน่นเต็มขวด นำถั่วงอกออกจากขวดทางช่องที่เจาะไว้ โดยขวดขนาด 1,500 ซีซี จะได้ถั่วงอก ประมาณ 6 ขีด หรือ 600 กรัม ส่วนขวด ขนาด 750 ซีซี จะได้ถั่วงอก ประมาณ 300 กรัม ส่วนขวด ขนาด 600 ซีซี จะได้ถั่วงอก ประมาณ 200 กรัม และขวด ขนาด 5 ลิตร จะได้ถั่วงอก ประมาณ 4-5 กิโลกรัม

ปัจจุบัน คุณนิมิตร์ มีความพยายามที่จะส่งมอบความรู้และเทคนิคต่างๆ ในการเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติกแก่เกษตรกรในท้องถิ่นละแวกใกล้เคียงที่สนใจ เกิดเป็นอาชีพเสริมแก่ครอบครัวช่วงว่างเว้นจากการทำนา


ภาพที่เกี่ยวข้อง














Cr. เทคโนโลยีชาวบ้าน